บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2018

สนธิสัญญาปารีส

สนธิสัญญาปารีส   อาจหมายถึง ความตกลงหลายฉบับที่เจรจาและลงนามกันใน กรุงปารีส   ประเทศฝรั่งเศส  เป็นต้นว่า สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1229) , ระหว่า พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส และ เรมงด์ที่ 7 เคานท์แห่งตูลูส  เพื่อยุติ สงครามครูเสดอัลบิเจ็นเซียน สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1259) , ระหว่าง พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศส  และ  สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ , เฮนรีสละสิทธิในนอร์ม็องดี สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1303) , ระหว่าง พระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส  และ  สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1323) ,  หลุยส์ที่ 1 เคานท์แห่งฟลานเดอร์ส สละการอ้างสิทธิใน เซแลนด์ สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1355) , การแลกเปลี่ยนดินแดนระหว่างราชอาณาจักรฝรั่งเศสกับซาวอย สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1623) , ระหว่าง  ฝรั่งเศส ,  ซาวอย  และ  เวนิส  เพื่อทำการฟื้นฟูดินแดน วาลเทลลินา  โดยการพยายามกำจัดกองทหารสเปนที่ตั้งมั่นอยู่ที่นั่น สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1657) , ระหว่าง  อังกฤษ  และ  ฝรั่งเศส  เพื่อการเป็นพันธมิตรในการต่อต้าน สเปน สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1763) , ระหว่าง  ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่   ฝรั่ง

สนธิสัญญารีโอเดจาเนโร

รูปภาพ
สนธิสัญญารีโอเดจาเนโร รีโอเดจาเนโร  ( โปรตุเกส :  Rio de Janeiro ;  เสียงอ่านภาษาอังกฤษ:  /ˈriːoʊ deɪ dʒəˈnɛəroʊ/ ) หรือ  รีอูจีฌาเนย์รู  ( เสียงอ่านภาษาโปรตุเกส สำเนียงบราซิล:  [ˈʁi.u dʒi ʒaˈnejɾu] ) มีความหมายว่า "แม่น้ำเดือนมกราคม") หรือมักเรียกโดยย่อว่า  รีโอ  (Rio) เป็นเมืองหลวงของ รัฐรีโอเดจาเนโร   ประเทศบราซิล  โดยเป็นเมืองที่กล่าวขานกันว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นที่รู้จักในด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะชายหาด กอปากาบานา  (Copacabana) และ อีปาเนมา  (Ipanema)  เทศกาลรื่นเริงประจำปีของบราซิล  และ รูปปั้นพระเยซู ขนาดใหญ่ที่รู้จักในชื่อ  กริชตูเรเดงโตร์  บนยอดเขา กอร์โกวาดู รีโอเดจาเนโรตั้งอยู่ที่ ละติจูด  22 องศา 54 ลิปดาใต้ และ ลองจิจูด  43 องศา 14 ลิปดาตะวันตก ( (6,150,000)  22°54′S   43°14′W ) รีโอมีประชากรประมาณ 6,150,000 (พ.ศ. 2547) และพื้นที่ 1,256 กม² (485 ไมล์²) และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศบราซิลรองจาก เซาเปาลู  (São Paulo) รีโอเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศบราซิล ก่อนที่เมือง บราซิเลีย จะเป็นเมืองหลวงในปี  พ.ศ. 2503  (ค.ศ. 1960) รีโอเดจาเนโรได้รับเลือก

สนธิสัญญาโรม

รูปภาพ
สนธิสัญญาโรม สนธิสัญญาโรม  มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า  สนธิสัญญาจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป  เป็นความตกลงระหว่างประเทศซึ่งนำไปสู่การก่อตั้ง ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1958 มีการลงนามเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1957 โดย เบลเยียม   ฝรั่งเศส   อิตาลี   ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ และ เยอรมนีตะวันตก  คำว่า "เศรษฐกิจ" ถูกลบออกจากชื่อสนธิสัญญา โดย สนธิสัญญามาสตริกต์  ใน ค.ศ. 1993 และสนธิสัญญาดังกล่าวเปลี่ยนใหม่เป็นสนธิสัญญาว่าด้วยการทำหน้าที่ของ สหภาพยุโรป  เมื่อ สนธิสัญญาลิสบอน มามีผลใช้บังคับใน ค.ศ. 2009 ประชาคมเศรษฐกิจยุโรปเสนอให้ค่อยๆ ปรับภาษีศุลกากรลดลง และจัดตั้งสหภาพศุลกากร มีการเสนอใช้จัดตั้งตลาดร่วมสินค้า แรงงาน บริการและทุนภายในรัฐสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจยุโรป และยังได้เสนอให้จัดตั้งนโยบายการขนส่งและเกษตรร่วมและกองทุนสังคมยุโรป สนธิสัญญายังได้ก่อตั้งคณะกรรมาธิการยุโรป

สนธิสัญญาโตเกียว

รูปภาพ
สนธิสัญญาโตเกียว อนุสัญญาโตเกียว  ( อังกฤษ :  Tokyo Convention ,  อนุสัญญาสันติภาพโตเกียว หรือ  สนธิสัญญาโตกิโอ [1] , เนื่องจากแต่ก่อนคนไทยเรียกกรุงโตเกียวว่ากรุงโตกิโอ) เป็นอนุสัญญาสืบเนื่องมาจาก กรณีพิพาทอินโดจีน ในปี  พ.ศ. 2484  ขณะที่การรบยังไม่สิ้นสุดนั้น  ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจใน เอเชีย ขณะนั้น ได้เข้ามาไกล่เกลี่ย ซึ่งประเทศ ไทย และ ฝรั่งเศส ได้ตกลง และหยุดยิงในว้นที่  28 มกราคม   พ.ศ. 2484 ก่อนจะมีการเจรจากันในวันที่  11 มีนาคม พ.ศ. 2484 [1]  ณ  กรุงโตเกียว  โดยมีนายโซสุเกะ มัดซูโอกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายญี่ปุ่น ฝ่ายไทยมี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์  ที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศไทยเป็นหัวหน้าคณะ และฝ่ายฝรั่งเศสมี อาร์เซน อังรี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงโตเกียวเป็นหัวหน้า ก่อนจะมีการลงนามในอนุสัญญาโตเกียวในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 โดยมี กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เป็นหัวหน้าคณะลงนาม [2] จากอนุสัญญานี้ทำให้ไทยได้ ดินแดนฝั่งขวาของหลวงพระบาง, จำปาศักดิ์,